Tel : 062-969-6359 | Line ID : @procleaningcenter

วิธีแก้ปัญหากลิ่นอับในห้องนอน ให้หายไปแบบอยู่หมัด


เผยเคล็ดลับกำจัดกลิ่นอับในห้องนอน ตั้งแต่ต้นตอของกลิ่น การระบายอากาศ การเลือกน้ำยาทำความสะอาด ไปจนถึงวิธีป้องกันไม่ให้กลับมาอีก

PRO CLEANING CENTER (โปรคลีนนิ่งเซ็นเตอร์)
บริษัททําความสะอาด รับจ้างทําความสะอาดบ้าน คอนโด สำนักงาน โรงงาน Big Cleaning แบบครบวงจร กรุงเทพมหานคร

บริษัท โปรคลีนนิ่งเซ็นเตอร์
มืออาชีพในงาน
ทำความสะอาด พร้อมช่วยขจัดคราบสกปรกทุกประเภท ด้วยทีมงานมืออาชีพ
ที่มีประสบการณ์มากกว่า 15 ปี ทุกคน
ทำงานด้วยใจ พร้อมให้บริการลูกค้าอย่างเต็มที่
ครอบคลุมงานทำความสะอาดทุกด้าน อย่างครบวงจร

ติดต่อ บริษัท โปรคลีนนิ่งเซนเตอร์ จำกัด

เว็บไซต์ : procleaningcenter.com
เบอร์โทร : 062-969-6359
ไอดีไลน์ : @procleaningcenter

ห้องนอนควรเป็นพื้นที่พักผ่อนที่ให้ความรู้สึกสบายและผ่อนคลาย แต่หลายครั้งเรากลับต้องเจอกับ “กลิ่นอับ” ที่ทำให้บรรยากาศหม่นหมองลงทันที ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นเหงื่อ กลิ่นชื้นจากผ้าปูที่นอน กลิ่นฝุ่น หรือกลิ่นเชื้อรา หากปล่อยไว้นาน ๆ ไม่เพียงทำให้รู้สึกไม่สบายตัว แต่ยังอาจส่งผลต่อสุขภาพทางเดินหายใจด้วย มาดูวิธีแก้ปัญหากลิ่นอับในห้องนอนแบบครบจบ และป้องกันไม่ให้กลับมาอีก

สำรวจต้นตอของกลิ่นอับในห้องนอนก่อน
ก่อนจะแก้ปัญหา คุณต้องรู้ว่ากลิ่นอับมาจากไหน

- ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน และผ้านวม ที่ไม่ได้ซักบ่อย

- ที่นอนสะสมเหงื่อ ฝุ่น และไรฝุ่น

- ตู้เสื้อผ้าที่อับชื้น เสื้อผ้าไม่แห้งสนิท

- พื้นห้อง พรม หรือผ้าม่านที่ไม่ค่อยได้ทำความสะอาด
เมื่อรู้แหล่งที่มาแล้ว จะสามารถวางแผนจัดการได้ถูกจุด ไม่ใช่แค่ใช้สเปรย์กลบกลิ่นเพียงอย่างเดียว

เพิ่มการระบายอากาศให้ห้องนอนหายอับ
ห้องนอนที่ปิดทึบ เปิดแอร์บ่อย แต่ไม่ค่อยเปิดหน้าต่าง มักเกิดกลิ่นอับได้ง่าย

- เปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเทอย่างน้อยวันละ 15–30 นาที

- หากห้องไม่มีหน้าต่างหรือมีน้อย ใช้พัดลมช่วยเป่าระบายอากาศ

- ใช้พัดลมดูดอากาศหรือเครื่องฟอกอากาศช่วยกรองกลิ่นและฝุ่น
อากาศที่หมุนเวียนดีจะทำให้กลิ่นอับจางลงเองตามธรรมชาติ และช่วยลดความชื้นสะสมภายในห้อง

ซักผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน และผ้านวมอย่างสม่ำเสมอ
ชุดเครื่องนอนคือแหล่งสะสมเหงื่อและกลิ่นตัวที่เราไม่ควรมองข้าม

- ซักผ้าปูที่นอนและปลอกหมอนทุก 1–2 สัปดาห์

- ผ้านวมควรซักทุก 1–3 เดือน หรือนำออกมาผึ่งแดดเพื่อลดกลิ่นอับ

- ใช้น้ำยาซักผ้ากลิ่นอ่อน ๆ หรือสูตรอ่อนโยนต่อผิว และอาจเติมน้ำส้มสายชูลงไปเล็กน้อยเพื่อช่วยลดกลิ่น
การดูแลเครื่องนอนให้สะอาดอยู่เสมอ จะช่วยให้ห้องนอนหอมสดชื่นขึ้นอย่างชัดเจน

ดูแลที่นอนให้ไร้กลิ่นอับและไรฝุ่น
ที่นอนที่เราใช้มานานมักสะสมละอองเหงื่อและฝุ่นอย่างมาก

- ใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดฝุ่นบนที่นอนอย่างน้อยเดือนละครั้ง

- โรยเบกกิ้งโซดาบนที่นอน ทิ้งไว้ 30–60 นาที แล้วดูดออก ช่วยดูดซับกลิ่นอับ

- หากที่นอนเริ่มมีกลิ่นแรงหรือมีคราบ ควรใช้บริการทำความสะอาดที่นอนมืออาชีพ
ที่นอนที่สะอาดไม่เพียงลดกลิ่นอับ แต่ยังช่วยให้การนอนหลับสบายขึ้นด้วย

จัดการตู้เสื้อผ้าและเสื้อผ้าให้หายกลิ่นอับ
ตู้เสื้อผ้าเป็นหนึ่งในจุดที่กลิ่นอับมักสะสมโดยที่เราไม่รู้ตัว

- หลีกเลี่ยงการเก็บเสื้อผ้าที่ไม่แห้งสนิทเข้าตู้

- เปิดตู้เสื้อผ้าระบายอากาศบ้างเป็นครั้งคราว

- ใช้ถุงดูดความชื้น ถ่านดูดกลิ่น หรือกลิ่นหอมอ่อน ๆ ช่วยลดกลิ่น

- คัดเสื้อผ้าที่ไม่ค่อยใช้หรือเก่าเก็บออก เพื่อลดการอัดแน่นและทำให้อากาศไหลเวียนดีขึ้น
การจัดตู้ให้โล่งและสะอาดจะช่วยลดกลิ่นอับในห้องนอนได้มากกว่าที่คิด

ทำความสะอาดผ้าม่าน พรม และของตกแต่งในห้องนอน
หลายครั้งกลิ่นอับไม่ได้มาจากที่นอนหรือผ้าปู แต่อยู่ตามผ้าม่านและพรม

- ซักผ้าม่านทุก 4–6 เดือน หรืออย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง

- ทำความสะอาดพรมด้วยเครื่องดูดฝุ่นเป็นประจำ และควรซักหรือส่งซักตามระยะ

- หากมีตุ๊กตาหรือของตกแต่งผ้า ควรซักหรือดูดฝุ่นอย่างสม่ำเสมอ
สิ่งทอเหล่านี้สามารถดูดซับกลิ่นในห้องได้ดี จึงต้องได้รับการดูแลไม่ต่างจากผ้าปูที่นอน

ควบคุมความชื้นในห้องนอนให้เหมาะสม
ความชื้นสูงเป็นสาเหตุสำคัญของกลิ่นอับและเชื้อรา

- ใช้เครื่องลดความชื้นในห้อง ถ้าห้องมีลักษณะอับชื้นหรืออยู่ใกล้ห้องน้ำ

- ตรวจเช็คผนังหรือเพดานว่ามีรอยรั่วซึมหรือไม่ หากมีควรรีบซ่อม

- หลีกเลี่ยงการตากผ้าในห้องนอน เพราะจะทำให้ความชื้นสูงขึ้นมาก
เมื่อความชื้นอยู่ในระดับปกติ กลิ่นอับจะลดลง และบรรยากาศห้องจะสดชื่นขึ้นทันที

ใช้ตัวช่วยดูดกลิ่นจากธรรมชาติ
หากอยากให้ห้องนอนหอมแบบไม่แรงเกินไป สามารถใช้วิธีธรรมชาติได้

- วางถ่านดูดกลิ่นในมุมห้อง ใต้เตียง หรือตู้เสื้อผ้า

- ใช้เบกกิ้งโซดาวางในถ้วยเปิดฝาไว้ ช่วยดูดซับกลิ่น

- ใช้ดอกไม้แห้งหรือสมุนไพรหอม เช่น ลาเวนเดอร์ ยูคาลิปตัส ในถุงผ้าเล็ก ๆ
วิธีเหล่านี้ช่วยให้ห้องหอมแบบอ่อนโยน เหมาะกับห้องนอนที่ต้องการความผ่อนคลาย

ปรับพฤติกรรมเล็ก ๆ เพื่อป้องกันกลิ่นอับกลับมา
การกำจัดกลิ่นอับครั้งเดียวอาจไม่พอ ถ้าเราไม่เปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่าง

- ไม่กินอาหารมีกลิ่นแรงในห้องนอน

- หมั่นเก็บกวาดและทิ้งขยะทุกวัน ไม่ปล่อยให้สะสมในห้อง

- อาบน้ำหรือเช็ดตัวก่อนเข้านอน เพื่อลดเหงื่อและกลิ่นตัวบนที่นอน
การปรับพฤติกรรมเหล่านี้จะช่วยรักษาความหอมสะอาดของห้องนอนได้นานขึ้น

สรุป: ห้องนอนหอมสดชื่น เริ่มจากการจัดการกลิ่นอับอย่างถูกวิธี
การแก้ปัญหากลิ่นอับในห้องนอน ไม่ใช่แค่การฉีดสเปรย์ปรับอากาศเท่านั้น แต่ต้องเริ่มจากการค้นหาต้นตอของกลิ่น ดูแลเครื่องนอน ที่นอน ตู้เสื้อผ้า ผ้าม่าน พรม ควบคุมความชื้น และปรับพฤติกรรมในการใช้ห้องนอนร่วมด้วย เมื่อคุณดูแลทุกส่วนอย่างสม่ำเสมอ ห้องนอนก็จะกลับมาหอมสะอาด น่าอยู่ และเป็นพื้นที่พักผ่อนที่แท้จริงของคุณอีกครั้ง






Contact Us

บริษัท โปร คลีนนิ่ง เซ็นเตอร์ จำกัด PRO CLEANING CENTER CO., LTD

บริษัททําความสะอาด รับจ้างทําความสะอาด แบบครบวงจร รับทําความสะอาดบ้าน คอนโด สำนักงาน โรงงาน
บริการทำความสะอาดบนที่สูง โรยตัว พ่นฆ่าเชื้อ อบโอโซน เราบริการทำความสะอาด อย่างมืออาชีพ ปลอดภัย
ด้วยประสบการณ์มากกว่า 15 ปี

ติดต่อเรา

729/111-112 ถนนรัชดาภิเษก แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กรุงเทพฯ 10120
ทะเบียนนิติบุคคลเลขที่ : 0105565128616


เบอร์โทร : 062-969-6359 | Line ID : @procleaningcenter





Copyrights © 2024 All Rights Reserved By PRO CLEANING CENTER
Power By RECRUSS SYSTEM