การทำความสะอาดบ้านหลังน้ำท่วม ควรเริ่มตรงไหนก่อนดี?

เมื่อน้ำลดแต่สิ่งที่เหลืออยู่คือโคลน กลิ่นอับ และคราบสกปรก การทำความสะอาดบ้านหลังน้ำท่วมจึงเป็นงานใหญ่ที่ต้องใช้ทั้งแรงกายและแรงใจ ที่สำคัญต้องทำอย่างถูกวิธีเพื่อป้องกันเชื้อโรคและความเสียหายที่อาจลุกลามในระยะยาว หากคุณกำลังเผชิญกับบ้านหลังน้ำท่วม นี่คือแนวทางที่ช่วยให้เริ่มต้นทำความสะอาดได้อย่างเป็นระบบและปลอดภัยมากขึ้น

ตรวจเช็กความปลอดภัยก่อนเข้าบ้าน
ก่อนจะเริ่มเก็บกวาด ควรตรวจสอบความปลอดภัยเป็นอันดับแรก เช่น

- ตรวจดูระบบไฟฟ้า หากมีความเสี่ยงให้ติดต่อช่างไฟฟ้ามืออาชีพ

- ตรวจสอบโครงสร้างพื้น ผนัง บันได ว่ามีการทรุดตัวหรือแตกร้าวหรือไม่

- สวมรองเท้าบูทยาง ถุงมือ หน้ากาก และเสื้อผ้าที่ป้องกันการสัมผัสน้ำสกปรก
การไม่รีบร้อนเข้าไปในบ้านทันที ช่วยลดความเสี่ยงทั้งด้านอุบัติเหตุและสุขภาพได้มาก

ระบายน้ำและเปิดระบายอากาศ
หากในบ้านยังมีน้ำขังอยู่ ควรเริ่มจากการระบายน้ำออกให้หมด ใช้ที่ตักน้ำ ปั๊มน้ำ หรือเครื่องฉีดน้ำแรงดันช่วย จากนั้นเปิดประตู หน้าต่าง และพัดลมเพื่อให้อากาศถ่ายเท ลดความชื้นและกลิ่นอับภายในบ้าน การระบายอากาศที่ดีจะช่วยให้ขั้นตอนถัดไป เช่น การขัดล้างและการตากแห้ง มีประสิทธิภาพมากขึ้น

เคลียร์ของเสียและเฟอร์นิเจอร์ที่เสียหาย
หลังน้ำท่วม มักมีขยะ เศษไม้ เศษวัสดุก่อสร้าง และของใช้ที่เสียหายจำนวนมาก ควรแยกสิ่งของดังนี้

- ของที่เปียกน้ำและส่งกลิ่นเหม็น ควรทิ้งทันที เช่น ฟูกที่นอน ผ้าเก่า บางชนิด

- เฟอร์นิเจอร์ไม้ หากพองและบิดงอมาก อาจซ่อมยาก ควรให้ช่างประเมิน

- เอกสารสำคัญให้แยกออกมา ตากลม และสแกนเก็บข้อมูลเผื่อชำรุดในภายหลัง
การเคลียร์ของที่ไม่จำเป็นออกก่อน จะช่วยให้พื้นที่โล่งและทำความสะอาดได้สะดวกขึ้น

ขัด ล้าง กำจัดโคลนและคราบสกปรก
โคลนและคราบดินที่ติดตามพื้น ผนัง และมุมต่าง ๆ ควรล้างออกโดยเร็ว เพราะหากปล่อยให้แห้งจะทำความสะอาดยากขึ้น

- ใช้น้ำฉีดล้างโคลนออกจากพื้นและผนังชั้นล่าง

- ใช้แปรงขัดร่วมกับน้ำยาทำความสะอาดหรือน้ำสบู่เพื่อลดคราบ

- ให้ความสำคัญกับมุมอับ ใต้บันได ใต้เฟอร์นิเจอร์ เพราะเป็นจุดสะสมของเชื้อโรค
เมื่อโคลนถูกขจัดออกไปแล้ว บ้านจะเริ่มดูสะอาดขึ้นและพร้อมสำหรับการกำจัดเชื้อโรคขั้นถัดไป

กำจัดเชื้อราและแบคทีเรียหลังน้ำท่วม
ความชื้นจากน้ำท่วมเป็นตัวกระตุ้นให้เชื้อราและแบคทีเรียเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะบนผนังไม้ ปูน พื้น และเฟอร์นิเจอร์

- ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อหรือน้ำผสมคลอรีนอ่อน ๆ เช็ดหรือถูพื้น ผนัง และจุดที่มีคราบดำหรือคราบเชื้อรา

- สำหรับเฟอร์นิเจอร์ไม้หรือหนัง ให้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับวัสดุเพื่อลดการทำลายพื้นผิว

- หากเชื้อราขึ้นรุนแรงหรือกระจายเป็นบริเวณกว้าง ควรพิจารณาเรียกทีมงานมืออาชีพด้านการกำจัดเชื้อรา
การจัดการเชื้อราอย่างจริงจังช่วยป้องกันปัญหาสุขภาพ เช่น ภูมิแพ้ หอบหืด หรือการระคายเคืองระบบทางเดินหายใจ

ดูแลพื้น ผนัง และโครงสร้างบ้าน
หลังจากทำความสะอาดพื้นฐานแล้ว ควรสำรวจวัสดุและพื้นผิวต่าง ๆ ว่าต้องซ่อมหรือเปลี่ยนหรือไม่

- พื้นไม้ลามิเนต พื้นไม้จริง หากบวมและโก่งตัวมาก อาจจำเป็นต้องเปลี่ยน

- ผนังยิปซัมที่เปียกชุ่มมักเสี่ยงต่อเชื้อรา ควรตัดส่วนที่เสียหายออกและเปลี่ยนใหม่

- พื้นกระเบื้อง ให้ขัดล้างแล้วทิ้งให้แห้งสนิทก่อนใช้งาน
แม้อาจมีค่าใช้จ่ายในการซ่อม แต่การแก้ไขให้ถูกจุดจะช่วยให้บ้านแข็งแรงและปลอดภัยในระยะยาว

การทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์และของใช้ภายในบ้าน
เฟอร์นิเจอร์และของใช้ภายในบ้านก็ต้องได้รับการดูแลเช่นกัน

- โซฟาผ้า เก้าอี้บุนวม หรือที่นอน หากชุ่มน้ำเสียหายมาก มักควรเปลี่ยนใหม่เพื่อความปลอดภัยด้านสุขอนามัย

- เฟอร์นิเจอร์ไม้ ใช้ผ้าแห้งเช็ด นำออกตากลมและหลบแดดจัดเพื่อลดการแตกร้าว

- เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด ควรให้ช่างตรวจสอบก่อนเปิดใช้งาน ไม่ควรเสียบปลั๊กทดลองเอง
การคัดแยกและตัดสินใจเปลี่ยนของบางอย่างอาจเป็นเรื่องยาก แต่อาจคุ้มค่ากว่าการเสี่ยงต่อความปลอดภัยในภายหลัง

จัดการกลิ่นอับหลังน้ำท่วม
กลิ่นอับเป็นหนึ่งในปัญหากวนใจหลังน้ำท่วม สามารถจัดการได้ด้วยวิธีต่อไปนี้

- เปิดหน้าต่าง ประตู และใช้พัดลมช่วยเร่งการระบายอากาศ

- ใช้เบกกิ้งโซดาวางตามมุมห้อง ตู้ หรือรองเท้าเพื่อลดกลิ่น

- ใช้น้ำยาดับกลิ่นหรือสเปรย์กำจัดกลิ่นที่ปลอดภัยต่อคนและสัตว์เลี้ยง
เมื่อความชื้นลดลง กลิ่นอับจะค่อย ๆ หายไป แต่ต้องควบคู่กับการทำความสะอาดเชื้อราและคราบสกปรกอย่างจริงจัง

ควรทำเองหรือใช้บริการทำความสะอาดมืออาชีพดี?
การทำความสะอาดบ้านหลังน้ำท่วมเป็นงานหนัก ใช้เวลามาก และต้องอาศัยทั้งอุปกรณ์และความรู้ หากบ้านมีความเสียหายมาก หรือผู้อยู่อาศัยไม่สะดวกลงแรงเอง การใช้บริการทำความสะอาดหลังน้ำท่วมจากทีมมืออาชีพก็เป็นทางเลือกที่คุ้มค่า

- ทีมงานมีอุปกรณ์เฉพาะ เช่น เครื่องดูดน้ำ เครื่องดูดไรฝุ่น เครื่องอบแห้ง

- สามารถกำจัดเชื้อราและกลิ่นได้อย่างมีมาตรฐาน

- ประหยัดเวลาและลดความเสี่ยงต่อสุขภาพของคนในบ้าน

ดูแลใจ พร้อมเริ่มต้นใหม่ไปพร้อมกับบ้าน
แม้น้ำท่วมจะสร้างความเสียหายทั้งทรัพย์สินและสภาพจิตใจ แต่การค่อย ๆ ฟื้นฟูบ้านทีละส่วน วางแผนทำความสะอาดอย่างเป็นระบบ และอาจใช้บริการมืออาชีพเข้ามาช่วย จะทำให้บ้านของคุณกลับมาน่าอยู่ได้อีกครั้ง ที่สำคัญอย่าลืมดูแลสุขภาพและให้เวลาใจตัวเองได้พักไปพร้อม ๆ กับการฟื้นฟูบ้านหลังน้ำท่วม